BEO89 คาสิโนออนไลน์
เสือมังกร (Dragon Tiger) คืออะไร ไพ่เสือมังกรหรือ Dragon-Tiger เป็นอีกหนึ่งเกมไพ่ที่ได้รับการพัฒนามาจากการเล่น บาคาร่าออนไลน์ เพื่อให้คุณสามารถเดิมพันได้ง่ายขึ้น ไม่มีการเปิดไพ่ใบที่ 3 เป็นการเปิดไพ่ใบเดียวทั้ง 2 ฝั่ง แล้วมาวัดกันไปเลยว่า จำนวนแต้มของฝั่งไหนจะมากกว่ากัน
กติกาการเล่นเสือมังกร และการนับแต้มไพ่
แต้มไพ่ที่ใหญ่สุดก็คือ K มีค่าเท่ากับ 13 แต้ม และไล่เรียงกันไปเป็น Q มีค่าเท่ากับ 12 แต้ม , J มีค่าเท่ากับ 11 แต้ม , 10 , 9 , 8 , 7, 6 , 5 , 4 , 3 , 2 มีแต้มตามเลขหน้าไพ่ที่ปรากฏ และแต้มต่ำสุดซึ่งก็คือ A มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม และการวัดผลแพ้ชนะ จะวัดจากแต้มไพ่ที่ปรากฎขึ้น เมื่อดีลเลอร์เปิดไพ่ขึ้นมา และตรวจดูว่าแต้มฝั่งไหนมีจำนวนเยอะกว่า ฝั่งนั้นก็จะเป็นฝ่ายชนะทันที แต่ในกรณีที่เกิดการเสมอขึ้นก็เสียเงินทั้งคู่ แต่ผู้ที่ได้เงินนั้นจะต้องเป็นผู้ที่แทงเสมอเท่านั้น ซึ่งหากแทงเสมอแล้วไพ่ออกเสมอขึ้นมาจริง ๆ จะได้รับเงินรางวัลสูงถึง 11 เท่าของที่แทงไปเลยทีเดียว
วิธีการเล่น
เกมไพ่ชนิดนี้ เป็นเกมไพ่ที่ถือว่าเล่นได้ง่ายมากที่สุดรูปแบบหนึ่ง เนื่องจากเป็นการวัดผลกันด้วยไพ่แค่เพียง 1 ใบ ถือว่ามีส่วนทำให้ชนะการเดิมพันได้ง่ายๆ ดังต่อไปนี้
- เลือกเดิมพันระหว่าง เสือ มังกร หรือ เสมอ (บางคาสิโนอาจมีตัวเลือกมากกว่านี้)
- เจ้ามือจะแจกไพ่ให้ มังกร หรือสีแดง 1 ใบ และตามด้วยแจกไพ่ฝั่งเสือหรือสีน้ำเงินอีก 1 ใบ
- เมื่อเปิดไพ่มานั้น จะนับแต้มจากไพ่ที่เปิดขึ้นมาเพียงใบเดียว ฝั่งไหนมีคะแนนมากกว่า ถือว่าเป็นฝ่ายที่ชนะและได้รับเงินเดิมพันไป
- จบเกม
ข้อควรรู้การเล่นเกมไพ่ เสือมังกร (Dragon Tiger) คืออะไร
สำหรับวิธีการเข้าไปเล่นเกมไพ่เกมนี้นั้น เงื่อนไขและกติกาไพ่เสือมังกรของแต่ละคาสิโนจะมีความแตกต่างกันไป
- ผู้เล่นสามารถที่จะเดิมพันด้วยรูปแบบใดก็ได้ กับตัวเลือกที่มีอยู่ในเกมเดิมพัน
- เวลาที่เข้าไปใช้ในการเดิมพัน จะมีช่วงเวลาตั้งแต่ 20-60 วินาที
- หากเป็นการเข้าไปวางเดิมพันกับคาสิโนในรูปแบบออนไลน์ จะมีการเปิดปิดเกมที่ค่อนข้างรวดเร็ว
- โดยปกติของเกมจะมีการเปิดไพ่ทิ้ง 1 ใบในทุกๆครั้งของเกม และเมื่อมีการเปิดไพ่สีต่างๆออกมาเช่น ไพ่สีขาว เหลือง หรือสีน้ำเงิน จะเป็นการบอกให้ผู้เดิมพันรู้ว่า เกมที่เปิดมาในเกมนั้นจะเป็นเกมสุดท้าย
ศัพท์ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกลงเงินกับเกมเสือมังกร
| ศัพท์เกมเสือมังกร | ความหมาย |
| TIGER | การเดิมพันฝั่งเสือ หรือเดิมพันฝั่งน้ำเงิน |
| DRAGON | การเดิมพันฝั่งมังกร หรือเดิมพันฝั่งแดง |
| TIE | การเดิมพันเสมอ (ขึ้นอยู่กับแต่ละเงื่อนไขของคาสิโน) |
| TEVEN | การเดิมพันแต้มคู่ในฝั่งเสือ หน้าไพ่ (2, 4, 6, 8, 10, 12) เสียเมื่อเกิด 7 แต้ม |
| TODD | การเดิมพันแต้มคี่ ในฝั่งเสือ หน้าไพ่ (1,3,5,9,11,13) เสียเมื่อเกิด 7 แต้ม |
| TRED | การเดิมพันหน้าไพ่เสือดอกแดง (โพแดง, ข้าวหลามตัด) |
| TBLACK | การเดิมพันหน้าไพ่ เสือดอกดำ (โพดำ, ดอกจิก) |
| DEVEN | การเดิมพันแต้มคู่ในฝั่งมังกร หน้าไพ่ ( 2,4,6,8,10,12) เสียเมื่อเกิด 7 แต้ม |
| DODD | การเดิมพันแต้มคี่ ในฝั่งมังกร หน้าไพ่ (1,3,5,9,11,13) เสียเมื่อเกิด 7 แต้ม |
| DRED | การเดิมพันหน้าไพ่ มังกรดอกแดง (โพแดง, ข้าวหลามตัด) |
| DBLACK | การเดิมพันหน้าไพ่ มังกรดอกดำ (โพดำ, ดอกจิก) |
| PAIR | การเดิมพันไพ่คู่ (รูปแบบพิเศษจะมีเฉพาะบางเว็บเดิมพันที่จะเป็นดอกหรือหน้าไพ่เหมือนกัน) |
เทคนิคในการเล่น เสือมังกร
- การตั้งเป้าหมายในการเล่น การตั้งเป้าหมายในการเล่น จะช่วยเพิ่มการทำเงินของเราได้อย่างดี เพราะส่วนใหญ่ท่านที่เสียนั้น จะไม่ค่อยมีเป้าหมายในการเล่นครับ เช่น เราลงทุนไป 1000 เราต้องตั้งเป้าหมายในการเล่นเลย โดยตั้งว่าถ้าได้ 700 – 800 บาทเราจะเลิก แล้วถอนเลยโดยเด็ดขาด แต่ถ้าเราเสียให้หยุดเลย แล้วค่อยเริ่มเล่นใหม่วันหลัง
- การกำหนดต้นทุนในการเล่น การกำหนดทุนนั้น จะช่วยให้เรามีกำไรที่มากขึ้นอย่างแน่นอน ถ้าเราคิดว่าจะวางเดิมพันรอบละ 100 เราควรลงทุนแค่ 1000 เท่านั้น อย่าเยอะไปกว่านี้ ถ้าได้ก็เลิกแต่ถ้าเสียก็เลิกเช่นกันนะครับ วันหลังค่อยเข้ามาเล่นใหม่
- กำหนดยอดเงินกับการแทง การกำหนดยอดเงินในการแทง จะทำให้การแทงของเรานั้น ไม่ต้องลงทุนสูงเกินไป และยังมีโอกาส ได้ – เสีย เท่ากันเพราะเราเสียรอบได้ 2 รอบเราก็ยังได้กำไรมา 1 เท่าอย่างแน่นอน
